บิ๊กตู่ กร้าว! UN ขึ้นบัญชีดำไทย คุกคามสิทธิมนุษยชน สั่งทูตแจงข้อเท็จจริง

170

นายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลไทย คุ้มครองนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน และไม่มีนโยบายข่มขู่ พร้อมสั่งทูตไทยในยูเอ็น เตรียมรับฟังการแถลงดังกล่าว และให้ชี้แจงข้อเท็จจริงทันทีภายในสัปดาห์หน้า

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. รับทราบรายงานของ กระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับกรณีที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยรายงานประจำปี แจงรายชื่อ 38 ประเทศเป็นประเทศที่น่าละอาย โดยอ้างว่ามีการปฏิบัติไม่ดีต่อนักสิทธิมนุษยชน หรือ ผู้ให้ความร่วมมือกับกลุ่มสิทธิมนุษยชน และ หนึ่งในจำนวนนั้น มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย โดยรายงานประจำปีฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะใช้ประกอบการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นในสัปดาห์หน้า

สำหรับในส่วนของไทยถูกระบุถึง กรณีนายไมตรี จำเริญสุขสกุล และ น.ส. ศิริกาญจน์ เจริญศิริ หรือ ทนายจูน  จากปัญหาการฟ้องร้องนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภายใต้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการให้ความร่วมมือตามกลไกด้านสิทธิมนุษยชน เพราะขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามหลักกฎหมายและระเบียบ

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกฯ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายหรือเจตนาจะคุกคาม ข่มขู่ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน และยังให้ความสำคัญกับการปกป้องคุ้มครองนักสิทธิมนุษยชน ให้มีความปลอดภัยและสามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติงานและดำรงชีวิตได้ และ ภายในสัปดาห์หน้า ทูตไทยประจำยูเอ็น จะไปร่วมรับฟังการนำเสนอรายงานนี้ และจะใช้โอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตด้วยว่า คนบางกลุ่มมักชื่นชอบการแชร์ หรือ ส่งต่อเรื่องที่เสียหาย ราวกับต้องการซ้ำเติมประเทศตัวเอง แต่หลายเรื่องที่เป็นเรื่องดี ๆ เช่น ไทยติดอันดับ 1 ของประเทศที่ดีที่สุดสำหรับผู้คนทั่วโลก ไทยได้รับยกย่องจาก WHO ให้เป็นต้นแบบ ด้านการจัดการสุขภาพของโลก หรือ ไทยมีดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันดีขึ้น กลับไม่ค่อยถูกขยายผลส่งต่อให้คนในชาติเกิดความภาคภูมิใจ.