สร้างความแปลกใจพอสมควร กับการที่ ‘พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน’ เข้าร่วมงานกับ ‘ชาติไทยพัฒนา’ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ประกาศเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว
พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เป็นอดีบ ผบ.ทบ. ที่ก่อการรัฐประหารรัฐบาลชั่วคราวของนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2549 เป็นประธานคมช. และก่อตั้งภรรคมาตุภูมิ ลงสู่การเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ซึ่งผลออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง พรรคได้ส.ส.เข้ามาไม่กี่เสียง รวมทั้ง พล.อ.สนธิ ด้วย
หลังการยึดอำนาจของ คสช. พล.อ.สนธิ ประกาศยุติบทบาททางการเมือง โดยยุบพรรคมาตุภูมิ การเข้าร่วมกับชาติไทยพัฒนา เรื่องเป็นเรื่องเซอร์ไพร์ซพอสมควร ทำให้ ‘ชาติไทยพัฒนา’ ที่มีข่าวสมาชิกพรรคออกจากพรรคต่อเนื่อง กลับมามีสีสัน มีชีวิตชีวาอีกครั้ง
พล.อ.สนธิ ระบุว่า นำ นักการเมืองจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสงขลา 15 คน เข้าพรรคชาติไทยพัฒนา ส่งผลให้การเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มีสีสันมากขึ้น
3 จังหวัดชายแดนใต้ มี ส.ส. 11 คน ปัตตานี 4 คน นราธิาส 4 คน และยะลา 3 คน กลายเป็นสมรภูมิ การเลือกตั้งที่ดุเดือดเข้มข้นขึ้นหลังการมาของ พล.อ.สนธิ หลังจากก่อนหน้านี้ ประชาชาติ รวมพลังประชาชาติไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และ พลังประชารัฐ ได้จัดทัพวางตัวบุคคลลงสมัครไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เอาเข้าจริง พล.อ.สนธิ ยังมีบุคคลที่มีฐานเสียงดีอยู่ในมือหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ คนของมาตุภูมิ ได้ออกไปอยู่กับประชาชาติหมดแล้ว แต่แต่คนที่มีคะแนนนิยมรองลงมา แต่ชาติไทยพัฒนา มีฐานเสียงเดิม จากกลุ่ม’อะวอหะซัน’ ที่ยึดครอง อบจ.นราธิวาส และเคยเป็นอดีต ส.ส.ชาติไทย แต่แว่วว่า จะย้ายไปซบพลังประชารัฐ
ในขณะที่ คนประชาธิปัตย์ นราธิวาส มีแนวโน้มว่า หนีไปซบ รวมพลังประชาชาติไทย จำนวนหนึ่ง คนภูมิใจไทย ไหลไปประชาชาติ และพลังประชารัฐ แต่ ภูมิใจไทย ก็สร้างคนใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่ทั้งหมดต้องดูโฉมหน้าชัดๆก่อนจะวิเคราะห์ฟันธงว่าจะเป็นอย่างไร
เอาเข้าจริง การเลือกตั้งครั้งที่จะถึง เป็นการต่อสู้ของคนกันเองที่แตกอยู่คนละพรรค โดยพลังประชารัฐ มีอนุมัติ อาหมัด เป็นแกนนำ 3 จังหวัด ประชาชาติ คณะใหญ่อยู่ที่ 3 จังหวัด ทั้งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ มุข สุไลมาน นัจมุดดีน อูมา ประชาธิปัตย์ ก็มีฐานเดิม ที่แต่ละคนศักยภาพใกล้เคียงกัน ไม่มีแกนนำ รพปช. มาจากประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย มีคุณหมอเพชรดาว โต๊ะมีนา และล่าสุด เพิ่ม พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เข้ามา
11 เสียงของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กลายเป็นพื้นที่ๆทุกพรรค ต้องการปักธง การแข่งขันจึงจะดุเดือดเข้มข้น